วันพุธที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2557

สรุปผลการประชุม ศรส. เมื่อวันที่ ๕ มีนาคม ๒๕๕๗


ศูนย์รักษาความสงบ หรือ ศรส. มีผลการประชุมสมควรแจ้งให้พี่น้องประชาชนทราบ ดังนี้

๑. ศรส.เป็นองค์กรพิเศษที่จัดตั้งตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ โดย ศรส.ไม่ใช่คู่กรณีหรือคู่ขัดแย้งกับกลุ่มใด ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม กปปส. กลุ่มคัดค้าน กปปส.    กลุ่ม นปช. หรือกลุ่มอื่น  แต่ ศรส.มีหน้าที่รักษาไว้ซึ่งระบอบประชาธิปไตย และบังคับใช้กฎหมายเพื่อนำความสงบสุขกลับสู่สังคมโดยเร็ว  แต่เนื่องจากศาลแพ่งได้มีคำพิพากษาสั่งห้าม ศรส.ดำเนินการในเรื่องที่เป็นภารกิจหลักอันสำคัญถึง ๙ ข้อ  ศรส.จึงอยู่ในสภาพขาดเครื่องมือตามกฎหมายที่จะดำเนินการในมาตรการสำคัญต่าง ๆ โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาเหตุร้ายและความรุนแรงที่เกิดขึ้นรายวันอย่างต่อเนื่องอยู่ในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม ภายใต้ข้อจำกัดดังกล่าว ศรส.ก็ได้พยายามอย่างเต็มที่ในการทำหน้าที่เท่าที่พอจะทำได้ เช่น การแจ้งเตือนประชาชนให้งดเว้นการเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่ม กปปส. และกลุ่มอื่น ๆ ทุกกลุ่ม       การพยายามเจรจาให้มีการเปิดพื้นที่สี่แยกและถนนสาธารณะจากผู้ชุมนุมทุกกลุ่ม  การดูแลและป้องกันสถานที่ราชการที่ถูกกลุ่ม กปปส.เข้าปิดล้อมให้สามารถเปิดบริการประชาชนตามปกติให้จงได้  และการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้กระทำผิดในทุก ๆ ฐานความผิดที่มีการฝ่าฝืนกฎหมาย  โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกระทำผิดด้วยการขัดขวางการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา  อันส่งผลเสียหายจนไม่สามารถเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร   ตามกำหนดวันที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ได้  เพื่อเป็นการป้องปรามการกระทำผิดมิให้เกิดขึ้นอีกในอนาคตที่จะมีการจัดการเลือกตั้งขึ้นอีก

๒. ศรส.ได้รับรายงานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ณ วันที่ ๕ มีนาคม ๒๕๕๗  ว่า ได้รับคดีที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง ดังนี้
๑) คดีขัดขวางการเลือกตั้งทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น ๑๙๐ คดี  แยกเป็นคดีที่ กปปส.ในกรุงเทพมหานครกระทำการขัดขวางการเลือกตั้ง ๕๑ คดี  และคดีที่ กปปส.ในต่างจังหวัดกระทำการขัดขวางการเลือกตั้ง ๑๓๙ คดี  
๒) คดีที่เจ้าหน้าที่ กกต. จงใจละทิ้งไม่จัดการเลือกตั้ง รวมทั้งสิ้น ๑๗๔ คดี แยกเป็นคดีที่เกิดในกรุงเทพมหานคร จำนวน ๖๓ คดี  และคดีที่เกิดในต่างจังหวัดจำนวน ๑๑๑ คดี 
รวมคดีที่เกี่ยวกับการกระทำผิดต่อกฎหมายเลือกตั้งทั้งสิ้น ๓๖๔ คดี  โดยศาลได้ออกหมายจับให้ รวมทั้งสิ้น ๑๖๓ คน  ได้ตัวมาสอบสวนแล้ว ๖๖ คน  ทั้งนี้เฉพาะเจ้าหน้าที่ กกต. จงใจละทิ้งไม่จัดการเลือกตั้งมีจำนวนถึง ๑,๔๕๑ คน ซึ่งโทษที่เกี่ยวข้องกับการขัดขวางการเลือกตั้งเป็นความผิดอุกฉกรรจ์ที่มีทั้งโทษจำคุกและปรับ รวมถึงการตัดสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา ๕ ปี  ตามกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง  

๓. บ่ายวันนี้ ผู้อำนวยการ ศรส.ได้ลงนามคำร้องยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญตามบทบัญญัติมาตรา ๖๘ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย  เพื่อขอให้วินิจฉัยว่า การชุมนุมของ กปปส.เป็นการชุมนุมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย  ซึ่งในเรื่องนี้เคยมีผู้ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญหลายครั้งแล้ว  แต่ ศรส.เห็นว่าการนำเสนอข้อมูลต่าง ๆ โดยเฉพาะการกระทำผิดต่าง ๆ ของแกนนำ กปปส. อย่างต่อเนื่องและต่างกรรมต่างวาระ  ตลอดจนพยานหลักฐานต่าง ๆ โดยเฉพาะความเสียหายที่เกิดแก่ประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และความเดือดร้อนของประชาชน ที่จะเสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญนั้น ต้องครบถ้วนสมบูรณ์  ดังนั้น คำร้องที่ยื่นในวันนี้จึงมีรายละเอียดดังกล่าวอย่างครบถ้วนถึง ๘๙ แฟ้ม (แฟ้มละประมาณ ๓๐๐ หน้า)  โดยการยื่นเรื่องต่อ  ศาลรัฐธรรมนูญครั้งนี้  ร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง จะเป็นผู้ยื่นทั้งในฐานะส่วนตัวและในฐานะผู้อำนวยการ ศรส.

จึงประกาศมาเพื่อทราบทั่วกัน
______________________

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น