วันพุธที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2557

ผอ.ศอ.รส.ขอให้ กกต.จัดการเลือกตั้งโดยเร็ว-ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ยันกระแสข่าวแปรรูป กฟผ.ไม่เป็นจริง


ผอ.ศอ.รส.ขอให้ กกต.จัดการเลือกตั้งโดยเร็ว-ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ระบุ กกต. อย่านำพรรคประชาธิปัตย์เป็นตัวตั้ง ยันกระแสข่าวแปรรูป กฟผ.ไม่เป็นจริงตามเลขาธิการ กปปส.ปราศรัย เผยหากศาลรัฐธรรมนูญตัดสินนายกรัฐมนตรีเกินกว่าที่รัฐธรรมนูญกำหนด ในฐานะพสกนิกรพร้อมพึ่งพระบารมีขอพระบรมราชวินิจฉัย

วันนี้ (23 เม.ย.57) เวลา 10.05 น. ที่ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการ ศอ.รส. ให้สัมภาษณ์กรณีที่ถูกนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ปราศรัยโจมตีอย่างรุนแรงเมื่อคืนที่ผ่านมารวม 2 เรื่อง โดยเรื่องแรกนายสุเทพบอกว่าตนจะแปรรูปการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. ซึ่งเป็นคำพูดที่โกหก ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษ เพราะตนคุม กฟผ. เพียง 3 เดือน ทั้งไม่มีหน้าที่คุมด้านเศรษฐกิจ เพียงแต่กำกับดูแล กฟผ. เมื่อเปลี่ยนบอร์ด กฟผ. ตนก็ถูกเปลี่ยนหน้าที่ สิ่งที่นายสุเทพพูดนั้นตนไม่คิดว่าคนที่เคยเป็นรองนายกรัฐมนตรี เคยเป็นรัฐมนตรีจะพูดอย่างนี้ได้ เรื่องที่สอง นายสุเทพด่าตนว่าเป็นเดรัจฉาน ซึ่งตนไม่ขอบอกว่ารับได้หรือรับไม่ได้ โดยครอบครัวตนได้สอนมาว่าคนจะเป็นเดรัจฉานได้ต้องเป็นคนทุจริตคดโกง เอาแผ่นดินของชาติไปเป็นทรัพย์สมบัติส่วนตัว และต้องไม่คำนึงถึงศีลธรรม คบชู้สาว แต่ตนไม่มีคุณสมบัติดังกล่าวจึงไม่ได้เป็นเดรัจฉานเหมือนที่นายสุเทพพูด

ผู้สื่อข่าวถามว่ามองแนวโน้มการจัดการเลือกตั้งจากนี้ไปจะเป็นอย่างไร ผอ.ศอ.รส. กล่าวว่า ภาวนาว่าให้มีการจัดการเลือกตั้ง แต่เมื่อวานนี้ที่ กกต. หารือร่วมกับพรรคการเมืองนั้นพรรคประชาธิปัตย์กังวลเรื่องความปลอดภัยมากไป ตนเคยเป็นตำรวจกองปราบปรามมา 11 ปีรู้ว่าระเบิดพลีชีพจะใช้ต่อเมื่อจะฆ่าคนทีเดียวพร้อมกันมาก ๆ เมื่อวานตามข่าวบอกว่าจะยิงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนตัวแล้วคิดว่าคงไม่ถึงขั้นใช้ระเบิดพลีชีพ เพราะคนจะตายเป็นร้อยคน และคนที่ปาระเบิดก็ตายด้วย ใช้ปืนยิงทีเดียวจบ ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องจริง แต่จะมีคนคิดร้ายกับนายอภิสิทธิ์หรือไม่นั้นไม่ทราบ พวกที่คิดอย่างนี้ถือว่าบ้า ทำให้คนตกใจ มีคนโทรมาถามกันมากโดยได้ตรวจสอบกับหน่วยข่าวแล้วบอกว่าไม่มี คนที่พูดเรื่องนี้ก็ไม่รู้เรื่อง ไม่เคยเป็นตำรวจ ไม่เคยเป็นทหาร แต่พูดในหลักการของการสืบสวนสอบสวน ของความเป็นไปได้ในการประทุษร้ายต่อชีวิตร่างกาย ไม่มีใครที่จะบ้าไปฆ่าตัวตายเพื่อจะฆ่าคน ๆ เดียว

ผู้สื่อข่าวถามว่า มองเรื่องนี้ว่าเป็นกระบวนการขัดขวางที่จะไม่ให้มีการเลือกตั้งหรือไม่ และจะเป็นปัญหาตามมาหรือไม่ที่พรรคการเมืองใหญ่อย่างพรรคประชาธิปัตย์ไม่เข้าร่วมประชุมกับ กกต. โดย ผอ.ศอ.รส. กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ไม่ไปร่วมการหารือ กกต. ก็อย่าไปสนใจ พรรคไหนไม่ไปก็ไม่ต้องประชุม หน้าที่การเลือกตั้งไม่ใช่หน้าที่พรรคประชาธิปัตย์ เป็นหน้าที่ของ กกต. ในการจัดการเลือกตั้ง อย่าเอาพรรคประชาธิปัตย์มาเป็นตัวตั้งจนกระทั่งต้องล้มการเลือกตั้ง และถ้าฟังนายสุเทพคนเดียวแล้วยึดโยงประเทศไปหมดก็ยกประเทศให้นายสุเทพไป ส่วนที่ถามว่าวันที่ 20 ก.ค.นี้ อาจเป็นวันที่จัดการเลือกตั้งได้นั้น ความเห็นส่วนตัวยังยืนยันว่าทรงเดิม ถ้าเปลี่ยนวิธีการรับสมัครทางอินเทอร์เน็ตได้ แล้วรัฐบาลขอร้องกองทัพให้ความร่วมมือจัดการเลือกตั้งในพื้นที่หน่วยทหาร และถ้ารัฐบาลมอบหมายให้ทำหน้าที่ตนก็จะทำหน้าที่

ผู้สื่อข่าวถามว่า ศอ.รส. จะเชิญ กกต. มาเพื่อให้ความมั่นใจเรื่องการดูแลความสงบเรียบร้อยหรือไม่ ผอ.ศอ.รส. กล่าวว่า เรื่องอย่างนี้ไม่เชิญ กกต. ต้องมาขอร้อง และขณะนี้ ศอ.รส. กำลังตรวจสอบว่า กกต. ประวิงเวลาหรือไม่ มีเหตุอันควรเชื่อได้หรือไม่ว่าละเลยการจัดการเลือกตั้ง ว่าไม่ปฏิบัติหน้าที่ ถ้าเข้าลักษณะนี้ก็จะออกแถลงการณ์ เมื่อถามต่อว่า ศอ.รส. เตรียมที่จะดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น แจ้งความ กับ กกต. หรือไม่ ผอ.ศอ.รส. กล่าวว่า ไม่ใช่ วันนี้ยังไม่คิด เพราะ กกต. ขะมักเขม้น แต่ขอฝากบอก กกต. ว่า การตัดสินใจจัดการเลือกตั้งเป็นอำนาจของ กกต. และ กกต. มี 5 คน อย่าให้คนหนึ่งคนมาชี้นำ เพราะคนชี้นำวันนี้สังคมด่า ไปเปิดเครือข่ายสื่อสารทางสังคมดูได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีข้อมูลว่าหากศาลรัฐธรรมนูญตัดสินนายกรัฐมนตรีกรณีโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี เกินกว่ารัฐธรรมนูญ ศอ.รส. มีแนวคิดที่จะเสนอนายกรัฐมนตรีคนกลาง ผอ.ศอ.รส. กล่าวว่า “ผมไม่เคยพูด คนที่เอามาบอกเป็นพวกเพ้อเจ้อ ผมบอกว่าถ้าตัดสินเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ก็ต้องพึ่งพระบารมีขอพระบรมราชวินิจฉัย ว่าสิ่งที่ศาลรัฐธรรมนูญทำไปถูกต้องหรือไม่ ผมเป็นพสกนิกรเหมือนกัน ถ้าผมทุกข์ร้อนผมก็พึ่งพระบารมี โดยจะทำหนังสือกราบบังคมทูลฯ รายละเอียดข้อเท็จจริง ผมเขียนเป็น และไม่ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท และที่บอกว่าผมจะเป็นคนขอทูลเกล้าฯ นายกฯ ด้วยตัวเองนั้นไม่จริง เป็นคนละเรื่อง ผมยังไม่บ้า”

ผอ.ศอ.รส. กล่าวด้วยว่า ในการขอพึ่งพระบารมีจะพิจารณาว่าจะทำเรื่องกราบบังคมทูลฯ ในนามส่วนตัว หรือในนามของอดีต ส.ส. 9 คน โดยไม่ต้องทำในนามของ ศอ.รส. เพราะตนก็เป็นพสกนิกรคนหนึ่งที่ได้รับความทุกข์ร้อนและมีความเชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญตัดสินเกินกว่าบทบัญญัติที่รัฐธรรมนูญกำหนด ฝืนมาตรา 181

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีข่าวว่านายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เลขาธิการ ศอ.รส. เป็นผู้เสนอแนวคิดดังกล่าว ผอ.ศอ.รส. กล่าวว่า ไม่จริง อย่าไปโทษนายธาริต เป็นเพียงเรื่องที่คิดกัน เมื่อวานนี้ตนก็ได้นำคำสั่งศาลสมัยที่ตัดสินอดีตนายกรัฐมนตรีนายสมัคร สุนทรเวช มาให้ดูว่าครั้งนั้นศาลได้ตัดสินให้อดีตนายกฯ สมัคร พ้นจากหน้าที่คนเดียว คณะรัฐมนตรียังอยู่ครบ ถ้าครั้งนี้บอกว่าออกไปหมด พวกตนก็จะพึ่งพระบารมี แต่ไม่ได้ขอนายกฯ ตนไม่ได้บ้าอย่างนายสุเทพที่จะเป็นรัฏฐาธิปัตย์ ไม่เคยคิด นายธาริตก็ไม่เคยคิด

ผู้สื่อข่าวถามว่า เหมือนกับว่าขณะนี้รัฐบาลได้ฟันธงไปแล้วว่าการตัดสินคดีของนายกรัฐมนตรี มีแนวโน้มที่ศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินว่านายกรัฐมนตรีมีความผิดใช่หรือไม่ ผอ.ศอ.รส. กล่าวว่า เรียกว่าเป็นการวิเคราะห์ นายกฯ อาจจะไม่ผิดก็ได้ การประเมินสถานการณ์ข่าวต้องประเมินทางลบไว้ก่อน ถ้าประเมินทางบวกแล้วเป็นลบจะแก้ไม่ทัน ถ้าประเมินทางลบแล้วเป็นบวก ก็จบ เมื่อถามต่อว่า ทำไมจึงมีแนวโน้มออกมาว่าจะพยายามไม่ให้คณะรัฐมนตรีพ้นสภาพไปพร้อมกับนายกฯ ผอ.ศอ.รส. กล่าวว่า แล้วสมัยอดีตนายกฯ สมัคร ตัดสินอย่างไร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น