วันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ผอ.ศรส.เผยเหตุระเบิดที่เกิดในกทม.-ต่างจังหวัดเป็นการกระทำของกลุ่มที่เคยก่อเหตุในปี 2549


ผอ.ศรส.เผยเหตุระเบิดที่เกิดในพื้นที่กรุงเทพฯ-ต่างจังหวัดเป็นการกระทำของกลุ่มที่เคยก่อเหตุในปี 2549 คาดจะยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลแพ่งได้ภายใน 3 วันนี้ โดยระหว่างนี้จะใช้ประมวลกฎหมายอาญาดูแลสถานการณ์ พร้อมประณาม กปปส. เป็นแก๊งเถื่อน ไม่ใช่เวทีเรียกร้องประชาธิปไตย

วันนี้ (21 ก.พ.57) เวลา 10.40  น. ที่ศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการ ศรส. ให้สัมภาษณ์กรณีเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ว่า เป็นกระบวนการที่จะล้มล้างรัฐบาล ทั้งนี้ไม่มีรัฐบาลไหนอยากให้เกิดความรุนแรงขึ้นในขณะที่รัฐบาลนั้นบริหารประเทศ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ยากต่อการควบคุม เวที กปปส. ทุกที่ถ้ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปคอยรักษาความสงบเรียบร้อย ถ้าถูกจับได้ตำรวจก็ถูกทำร้าย  ทำให้ตำรวจไม่กล้าเข้าไป ตนได้รับรายงานว่าเมื่อคืนนี้เวลา 02.00 น. มีทหารยศสิบเอก 2 นายสังกัดกองร้อยลาดตระเวนระยะไกล ขับรถไปที่พื้นที่ชุมนุมแจ้งวัฒนะ ก็ถูกการ์ด กปปส. ยิงได้รับบาดเจ็บ 1 นาย ขอถามว่าการ์ดเอาปืนมาจากไหน ซึ่งตนขอประณามพฤติกรรมของ กปปส. ว่าเป็นแก๊งเถื่อนแก๊งอุบาทว์ เรียกร้องประชาธิปไตยแต่ประกาศจับนายกรัฐมนตรีทุกคืน ประกาศบุกอาคารสถานที่ของบุคคลอื่น ไปยึดกระทรวงต่าง ๆ และวันนี้ก็ไปบุกที่สถานีวอยซ์ทีวี  อย่างนี้ไม่ใช่ประชาธิปไตยแต่เป็นอันธพาล

“ผมขอสาปแช่งให้ความหายนะจงเกิดขึ้นกับคนคิดร้ายต่อบ้านเมือง คุณจะเรียกร้องประชาธิปไตย ก็ไปเอาพิมพ์เขียวมาให้ดูว่าเขียนไปถึงไหนแล้ว แต่ละคืนหาเรื่องด่าชาวบ้าน พูดจาหยาบคาย หยาบช้า ผมเกิดมายังไม่เคยได้ยินแก๊งไหนที่พูดจาหยาบช้าเท่ากับเวที กปปส. แล้วไม่มีอะไรเดินหน้า ด่าท่านทักษิณ ด่านายกฯ ด่าผม คุณไม่เคารพตัวนายกฯ ก็เป็นสิทธิ์ แต่ตำแหน่งคุณต้องเคารพบ้าง เพราะเป็นผู้นำประเทศมาจากการเลือกตั้ง ได้รับการโปรดเกล้าฯ แล้ววิธีที่ผมถือว่าเลวร้ายคือไปจัดตั้งเด็ก ๆ ให้ขึ้นมาด่า อย่างนี้ไม่ดี” ผอ.ศรส. กล่าว

ผอ.ศรส. กล่าวว่าได้สอบถามข้อมูลเหตุการณ์ที่ อ.เขาสมิง จ.ตราด  ซึ่งเป็นพื้นที่นอกเขต ศรส. ปรากฏว่ากรณีการยิงอาวุธเอ็ม 79 ตกห่างจากเวทีการชุมนุม 100 กว่าเมตร  ถือเป็นการสร้างสถานการณ์  แต่ด้วยข้อจำกัดต่อหน้าที่ของ ศรส. ก็เข้าไปใกล้ไม่ได้ ทั้งนี้ ถ้าศาลได้อ่านบทวิเคเคราะห์ของหนังสือวอลล์สตรีทไทม์ กับวอลล์สตรีทเจอนอล ศาลจะร้องไห้ เพราะวิจารณ์ศาลแรง อย่างไรก็ตามตนไม่เห็นด้วยและไม่อยากให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นเพราะไม่เป็นผลดีต่อรัฐบาล ถ้านายสุเทพยังประพฤติตัวอย่างนี้ กปปส. ออกอาละวาดอย่างนี้ ตนก็เชื่อว่าเหตุการณ์อย่างนี้ไม่จบ และขอบอกไปยังหน่วยงานทั้งหลายว่า เรื่องอย่างนี้พวกตนไม่เคยคิด รัฐบาลไม่เคยคิด เพราะถ้าทำไปก็มีแต่เข้าตัว ขอให้นายสุเทพหยุด และที่บอกว่าพวกตนสลายม็อบนั้นเอาส่วนไหนมาพูด  ตนไม่เคยไปม็อบ

ผอ.ศรส. กล่าวว่า ทำไมกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. ไม่ชุมนุมกันอย่างสงบ ตนได้ทำหนังสือถึงศาลรัฐธรรมนูญให้ช่วยอธิบายความของคำว่าการชุมนุมโดยสงบ การที่ผู้ชุมนุมไปปิดวอยซ์ทีวี ไปปิดชินคอร์ป และไม่รู้จะไปที่ไหนอีก พฤติกรรมแบบนี้หรือคือการทำให้บ้านเมืองสงบ ตนรู้เบื้องหลังทั้งหมด วันหนึ่งจะพูดให้ชัด และเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ตนก็รู้ตัวละครทั้งหมด โดยมีเพิ่มเติมมาบ้างจากปี 49 คือพวกกระหายอำนาจ ไม่ลงเลือกตั้งเพราะลงก็แพ้ จึงต้องใช้วิธีการอย่างนี้ นายสุเทพเป็นเบี้ยตัวหนึ่ง ที่วันหนึ่งจะเหมือนกับที่หนังสือพิมพ์แคนาดาวิเคราะห์ว่านายสุเทพจะถูกฆาตกรรม ตนในฐานะตำรวจเก่ารู้มากก็มีสิทธิ์โดน ที่นายสุเทพขู่จะมาจับนั้นตนเฉย ๆ นายสุเทพจะเอาอำนาจอะไรมาจับตน เพราะนายสุเทพเป็นผู้ต้องหาคดีกบฏ จะไปตามล่านายกฯ ด้วยอะไร บ้านเมืองขณะนี้ไปกันใหญ่

“ม็อบนายสุเทพวันนี้มีการ์ดไม่ต่ำกว่า 300 คน คนที่มาฟัง จัดตั้ง 90% คนกรุงเทพฯ เหลือน้อย เขาไม่เอาด้วยแบบนี้ มีแต่เรื่องรุนแรง แล้วเป็นประชาธิปไตยหรือ”  ผอ.ศรส. กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าคนที่สร้างความรุนแรงที่เกิดขึ้นในระยะนี้ทั้งที่ จ.ตราด กับที่ราชประสงค์ เป็นความเคลื่อนไหวของกลุ่มเดิมในปี 2549 หรือไม่ ผอ.ศรส. กล่าวว่า จากที่ได้รับรายงานและตามที่ตนวิเคราะห์ก็เป็นอย่างนั้น พอมีเรื่องรัฐบาลก็เดือดร้อน หมายความว่ารัฐบาลคุมสถานการณ์ไม่ได้ จะให้รัฐบาลคุมอย่างไร ศาลแพ่งก็ออกข้อจำกัด ตำรวจในเครื่องแบบผ่านไปก็ถูกดึงไปชก  เมื่อถามต่อว่ามีนักการเมืองเข้าไปร่วมด้วยหรือไม่ ผอ.ศรส. กล่าวว่า มีทั้งนักการเมืองและพวกที่อยากเป็นนักการเมือง แต่ไม่ขอบอกว่าเป็นทหารหรือไม่เพราะตนไม่ทราบ นายสุเทพบอกอยู่ทุกคืนว่ามือปืนป๊อบคอร์น ชายชุดดำ นายสุเทพต้องเล่นแรงเพราะหวังว่าคดี 99 ศพจะจบ แต่นายสุเทพเข้าใจผิดเพราะคดีนั้นจบไม่ได้

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีคนร้ายยิงอาวุธเอ็ม 79 ไปที่ศาลอาญาและศาลแพ่ง คิดว่าเป็นการสร้างสถานการณ์หรือเป็นการหวังผลเชิงสัญลักษณ์หรือไม่ ผอ.ศรส. กล่าวว่า เขาทำให้คนเกลียดรัฐบาล รัฐบาลจะไปทำทำไม ยิงอีก 100 ลูก ศาลก็ตัดสินไปแล้ว รัฐบาลไม่ทำ รัฐบาลไม่โง่ เขาไปทำให้ศาลเกลียดรัฐบาล ใครผ่านไปก็ยิงได้ คนก็มองว่ารัฐบาลไม่พอใจคำสั่งศาลหรือไม่ โดยตนขอบอกว่าเราไม่มีสิทธิ์ไม่พอใจ แต่เราไม่เห็นด้วยจึงไปอุทธรณ์

ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่าสถานการณ์จะเพิ่มขึ้นหรือไม่และจะแก้ไขอย่างไร ผอ.ศรส. กล่าวว่า สถานการณ์เพิ่มขึ้น แต่จะแก้ไขอย่างไรนั้นตนไม่มีอำนาจ ตอนนี้ใช้ประมวลกฎหมายอาญาอย่างเดียว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ห่วงการประกาศเคลื่อนไหวใหญ่ของกลุ่ม นปช.ที่ประกาศจะชัตดาวน์องค์กรอิสระ กับการเคลื่อนไหวของ กลุ่ม กปปส. ในขณะนี้ว่าจะทำให้เกิดความรุนแรงขึ้นระหว่างคนสองกลุ่มหรือไม่ ผอ.ศรส. กล่าวว่า ถ้ามีการเผชิญหน้าคิดว่าจะรุนแรง ตนก็ทุกข์ใจ กำลังคิดว่าจะทำอย่างไรเพราะไม่อยากให้เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามตนมีหน้าที่ที่จะต้องดูแล

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะปล่อยให้สถานการณ์อย่างนี้เป็นไปอีกนานเท่าไร ผอ.ศรส. กล่าวว่าจะให้ตนทำอย่างไร ศาลจำกัดอำนาจตนมาแล้ว ม็อบมีเส้น มีเบื้องหลัง ไม่เกรงกลัวใครทั้งนั้น สร้างความเสียหายให้บ้านเมืองเท่าไรนายสุเทพทำหมด

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการประเมินเรื่องจะยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือไม่ ผอ.ศรส. กล่าวว่ายังไม่ได้คิด ขณะนี้ขอทุเลาคำสั่งศาลแพ่ง และขออุทธรณ์ก่อน

ผู้สื่อข่าวถามว่ามองกรณีที่ ผบ.ตร. ทำหนังสือชี้แจงเจ้าหน้าที่ตำรวจภายหลังศาลแพ่งมีคำสั่งอย่างไร ผอ.ศรส. กล่าวว่า ผบ.ตร.ทำถูกต้อง ผบ.ตร. ต้องบอกเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าขณะนี้ข้อกำหนดตาม พ.ร.ก. ฉุกเฉินใช้ไม่ได้แล้ว ถ้าตนเป็น ผบ.ตร. ตนก็บอกลูกน้อง เพราะตำรวจเป็นผู้ออกข้อกำหนด ตนเป็น ผอ.ศรส. โดย ผบ.ตร. เป็นคนปฏิบัติการ จะออกข้อกำหนดให้ผู้ใต้บังคับบัญชาปฏิบัติการ เมื่อศาลแพ่งมีคำสั่ง ผบ.ตร. ก็ต้องบอกลูกน้อง  ตำรวจไม่มีอะไรขัดแย้งกับ ศรส.

ผู้สื่อข่าวถามถึงความเป็นไปได้ในการจัดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นว่าจะต้องมีกระบวนการอย่างไร ตอนนี้นายกรัฐมนตรีก็ไม่สามารถไปทำงานที่ไหนได้ ผอ.ศรส. กล่าวว่า ตนไม่มีความรู้ในเรื่องนี้  รู้แต่เรื่องลี้ภัย ขออย่าเพิ่งไปไกลขนาดนั้นเลย นายกรัฐมนตรีไม่อยากไปตอแย บอกว่าจะไปจับนายกฯ แล้ว รปภ. จะทำอย่างไร ถ้าจะจับตนแล้ว รปภ. จะยืนสวัสดีหรือ นายสุเทพอย่าไปหาเรื่องเลย แค่นี้ก็ติดคุกตายอยู่แล้ว ตนประเมินสถานการณ์จากนี้ไปว่านายสุเทพแพ้ รัฐบาลชนะ นายสุเทพไปไม่รอด เพราะคนเริ่มเกลียด  หมดเงินเมื่อไรก็จบ ตอนนี้เงินเหลือน้อยแล้ว สุดท้ายนายสุเทพแพ้

ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่าก่อนที่นายสุเทพจะแพ้ และรัฐบาลจะชนะ จะเกิดเหตุรุนแรงขึ้นอีกหรือไม่ ผอ.ศรส. กล่าวว่า ดูไม่ออก กปปส. ไม่ให้ใครเข้าไปดู คิดว่าเหตุรุนแรงมีอีกแน่นอน แต่ไม่มั่นใจว่าจะเกิดเหตุที่ไหน ใครที่ไม่เกี่ยวข้องอย่าเข้าไปเลย เพราะเวทีนี้ไม่ใช่เวทีเรียกร้องประชาธิปไตยแล้ว แต่เป็นเวทีป่าเถื่อน ถ้ามีเรื่องรุนแรง รัฐบาลเสียหาย ขณะนี้นายสุเทพเดินไม่เป็น มีลูกเดียวคือให้เกิดกลียุคถึงจะมีโอกาสพลิกล็อกกลับมาชนะ ไม่อย่างนั้นชนะยาก

ผู้สื่อข่าวถามว่า ประเมินหรือไม่ว่าหากเกิดเหตุรุนแรงกลียุค ทหารจะออกมา ผอ.ศรส. กล่าวว่า “ผมไม่พูด ไม่ใช่หน้าที่ของผม ผมคิดว่าทุกคนมีสติ ทุกคนเห็นอะไรผิดอะไรถูก ทุกคนคิดเป็น ทุกวันนี้ก็กลียุคอยู่แล้ว กปปส. เป็นต้นเหตุ ไหนว่าชุมนุมสงบ”

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ ผอ.ศรส. ทำหนังสือขอความรู้ขอคำแนะนำไปที่อธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่งรวม 7 ข้อนั้นได้รับการตอบรับมาหรือไม่ ผอ.ศรส. กล่าวว่า ท่านไม่ตอบ ก็แล้วแต่ท่าน แค่หนังสือพิมพ์ต่างประเทศวิจารณ์ท่าน ท่านคงมึนแล้ว แต่ประชาชนเข้าใจว่าตนต้องเบาลงเพราะอะไร ก็กลับไปใช้กฎหมายอาญา ซึ่งคิดว่าเพียงพอสำหรับการดูแลสถานการณ์

พร้อมกันนี้ ผอ.ศรส. กล่าวถึงการยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลแพ่งว่า ศรส. จะยังไม่ยื่นอุทธรณ์ในวันนี้ เพราะเอกสารมีมาก โดยจะเร่งรัดการเตรียมเอกสารยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลแพ่งให้เร็วที่สุด คาดว่าใช้เวลาไม่เกิน 3 วัน โดยระหว่างนี้ ศรส. จะใช้ประมวลกฎหมายอาญาดูแลสถานการณ์ ส่วนกรณีที่โฆษกพรรคเพื่อไทย ระบุว่าพลเอก พัลลภ ปิ่นมณี จะเข้ามาเป็นทีมงาน ของ ศรส. นั้นผอ.ศรส.กล่าวว่า ล่าสุด ศรส. ยังไม่มีการปรึกษาในเรื่องดังกล่าว





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น