วันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ศรส. ยืนยันยังไม่เคยประกาศรายชื่อกลุ่มทุนที่สนับสนุนการชุมนุม กปปส. ขอบคุณประชาชนที่ร่วมมืองดเข้าร่วมการชุมนุม

ศรส. ยืนยันยังไม่เคยประกาศรายชื่อกลุ่มทุนที่สนับสนุนการชุมนุม กปปส. นอกจากแกนนำ 58 คนที่ตกเป็นผู้ต้องหาแล้ว ขอบคุณประชาชนที่งดร่วมชุมนุม-งดสนับสนุน กปปส. ระบุข้อมูลหน่วยมั่นคงปรากฏยอดผู้ชุมนุมลดลงต่อเนื่อง เผยตำรวจ 26 รายถูกทำร้ายจากการทำหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยการชุมนุม ชี้แกนนำที่ถูกออกหมายจับหลบซ่อนตัวอยู่โดยรอบทำเนียบรัฐบาล



วันนี้ (12 ก.พ.57) เวลา 13.00 น. ที่ศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ในฐานะกรรมการ ศรส. พร้อมด้วย พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (เลขาธิการ ป.ป.ง.) แถลงผลการประชุม ศรส. ประจำวัน ซึ่งมี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และ ผอ.ศรส. เป็นประธานการประชุม โดยมีมติที่สำคัญ ดังนี้

1. ศรส. ได้รับรายงานจากกองบัญชาการตำรวจนครบาลและตำรวจภูธรภาคถึงความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับแกนนำ กปปส. และแนวร่วม กรณีร่วมกันกระทำผิดด้วยการขัดขวางการเลือกตั้งด้วยวิธีการต่าง ๆ ทั้งในกรุงเทพมหานครและในต่างจังหวัดโดยเฉพาะภาคใต้ ซึ่งเป็นความผิดร้ายแรงต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย เป็นการล่วงละเมิดสิทธิของประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งโดยตรง ขณะนี้มีจำนวนคดีประเภทขัดขวางการเลือกตั้งทั่วประเทศ จำนวน 152 คดี คดีประเภทเป็นเจ้าหน้าที่ กกต. จงใจละทิ้งหน้าที่ไม่จัดการเลือกตั้ง จำนวน 105 คดี และศาลได้ออกหมายจับให้แล้วจำนวน 43 คน

2. ตามนโยบายของ ศรส. ร่วมกับส่วนราชการต่าง ๆ ได้เห็นถึงความจำเป็นและความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนจากการปิดกรุงเทพมหานครของ กปปส. โดยเฉพาะสถานที่ราชการ ดังนั้น เพื่อให้สถานที่ราชการสามารถกลับมาเปิดให้บริการประชาชนได้ตามเดิม ศรส. ร่วมกับส่วนราชการจึงได้ทำพิธีเปิดสถานที่ราชการต่าง ๆ ที่ถูกปิดให้เริ่มเปิดทำการได้ ขณะนี้สามารถเปิดได้ถึง 45 แห่งแล้ว

3. ศรส. ขอแจ้งพี่น้องประชาชนว่า ข้อมูลจากการตรวจสอบของหน่วยงานด้านความมั่นคงปรากฏมียอดผู้ชุมนุมของ กปปส. สูงสุดเมื่อคืนวานนี้ ช่วงเวลาประมาณ 20.00 น. ที่ประมาณ 4,060 คน ซึ่งได้ลดน้อยลงเป็นลำดับอย่างต่อเนื่องทุกวัน ศรส. ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ได้ให้ความร่วมมืองดการเข้าร่วมชุมนุม การสนับสนุนด้านการเงิน และการช่วยเหลือต่าง ๆ ซึ่งจะทำให้การดำเนินการแก้ไขปัญหาสถานการณ์วุ่นวายที่เกิดขึ้นเป็นไปได้ด้วยดี

4. ศรส. ขอยืนยันว่า ศรส. ยังไม่เคยประกาศรายชื่อกลุ่มทุนที่สนับสนุนการชุมนุม กปปส. ในลักณะท่อน้ำเลี้ยง นอกจากแกนนำ กปปส. ทั้ง 58 คนที่ตกเป็นผู้ต้องหาแล้วเท่านั้น ส่วนบุคคลอื่นยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาตรวจสอบของคณะทำงานที่ ศรส. ตั้งขึ้น อันได้แก่ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมสรรพากร ซึ่งจะได้พิจารณาอย่างรอบคอบและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

5. ศรส. เห็นสมควรแต่งตั้งคณะทำงานประสานงานกับ กกต. เพื่อให้การจัดการเลือกตั้งใหม่ในช่วงเดือนเมษายนนี้เป็นไปด้วยความสงบและเรียบร้อย โดยมีตำรวจ ทหาร และกรมการปกครอง รวมเป็นคณะทำงาน และมีผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.อารี อ่อนชิต เป็นหัวหน้าคณะทำงาน

6. ศรส. ได้รับแจ้งจากกองบัญชาการตำรวจนครบาลว่า ผลจากการที่พระพุทธอิสระ แกนนำ กปปส. เวทีถนนแจ้งวัฒนะ ได้สั่งการให้การ์ดเข้าจับกุมตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย คือ ร.ต.ต.สมคิด เชยกมล และ ด.ต.วชิรพงษ์ อุ่นนวลบุรพงศ์ ขณะปฏิบัติหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยในบริเวณการชุมนุม แล้วใช้ผ้าผูกตา จากนั้นเข้ารุมทำร้ายจนตำรวจทั้ง 2 นายได้รับบาดเจ็บนั้น ขณะนี้ตำรวจทั้ง 2 นายยังต้องพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยแพทย์ยังต้องเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด ศรส. เห็นว่า การกระทำของแกนนำ กปปส. เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและไม่สมควรกระทำต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งกำลังปฏิบัติหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยเป็นอย่างยิ่ง อนึ่ง จำนวนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกทำร้ายจากการเข้าไปดูแลความสงบเรียบร้อยของผู้ชุมนุมของ กปปส. ขณะนี้มีร่วม 26 รายแล้ว

7. จากการเข้าตรวจสอบสถานที่การชุมนุมของแกนนำ กปปส. ขณะนี้พบว่า บริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล กปปส.ได้ใช้เป็นที่หลบซ่อนของแกนนำที่ถูกออกหมายจับ โดยมีการ์ดซึ่งมีอาวุธร้ายแรงคุ้มกันอย่างเข้มแข็ง โดยเฉพาะมีการจัดทำบังเกอร์ในลักษณะป้อมค่ายแข็งแรง มีช่องในลักษณะใช้ยิงอาวุธปืนออกมายังเจ้าหน้าที่ที่จะเข้าจับกุมด้วย

8. ตามที่ปรากฏภาพคลิปการเข้าตรวจค้นบ้านพักของนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม นั้น ศรส.ได้ตรวจสอบแล้วเป็นภาพคลิปตัดต่อทำให้ดูเสมือนว่าเป็นการเข้าตรวจค้นที่ไม่เหมาะสม ศรส. ขอยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจค้นตามหมายค้นของศาลโดยถูกต้อง และกระทำโดยเหมาะสมกับสถานการณ์แล้ว เพราะทางการสืบสวนพบว่ามีการ์ดที่มีอาวุธของนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม หลบซ่อนอยู่ด้วย จึงต้องเข้าค้นตามยุทธวิธีซึ่งเป็นไปตามกฎหมาย

พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กล่าวชี้แจงเพิ่มเติมเรื่องการดำเนินคดีกับกลุ่มทุนที่สนับสนุน กปปส. ในลักษณะท่อน้ำเลี้ยงว่า เมื่อวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา ศรส. ได้ออกคำสั่ง ที่ พิเศษ 4/2557 มอบหมายคณะพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานกับกลุ่มบุคคลและนิติบุคคลซึ่งให้การสนับสนุนการชุมนุมของ กปปส. ซึ่ง ศรส. ได้เห็นชอบกรอบภารกิจและอำนาจหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่แล้ว โดยในขณะนี้คณะพนักงานเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานต่าง ๆ ซึ่งเร็ว ๆ นี้คาดว่าจะเสนอรายชื่อบุคคลหรือนิติบุคคลต่อหัวหน้าผู้รับผิดชอบ เพื่อสั่งห้ามไม่ให้กระทำการใด ๆ หรือสั่งให้กระทำการใด ๆ เกี่ยวกับธุรกรรมทางการเงิน หรือการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินของบุคคลหรือนิติบุคคลดังกล่าว และเรียกให้มาชี้แจงข้อเท็จจริงต่อคณะพนักงานเจ้าหน้าที่ต่อไป ทั้งนี้ หากมีการฝ่าฝืนคำสั่งที่จะออกมาก็จะมีความผิดตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีรายชื่อกลุ่มบุคคลและนิติบุคคลซึ่งให้การสนับสนุนการชุมนุมของ กปปส. ที่ปรากฏว่ามีการรั่วไหลออกมารวม 22 รายชื่อ ซึ่งผู้ที่มีรายชื่อเตรียมที่จะฟ้องร้อง ศรส. นั้น ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร โดยอธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ตนได้แถลงผลการประชุม ศรส. โดยได้ยืนยันรายชื่ออย่างเป็นทางการขณะนี้คือ 58 รายชื่อซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาแล้ว ส่วนรายชื่ออื่น ๆ ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการของเลขาธิการ ป.ป.ง. ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะทำงาน 5 หน่วยงาน โดยยังไม่มีการประกาศรายชื่ออย่างเป็นทางการ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทั้ง 58 รายชื่อดังกล่าวมีขั้นตอนอย่างไรหรือติดเงื่อนไขใดจึงยังไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อได้ อธิบดีดีเอสไอกล่าวว่า 58 รายชื่อนี้อยู่ในขั้นตอนการทำคำสั่ง ต้องชี้แจงว่ารายชื่อดังกล่าวมีการรวบรวมมาจากการสืบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษและตำรวจสันติบาล หลังจากที่รวบรวมรายชื่อมาแล้ว ศรส. ได้ตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ 5 หน่วยงานที่มี เลขาธิการ ป.ป.ง. เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ซึ่งมติที่ประชุม ศรส. เมื่อวานนี้เห็นชอบว่าเพื่อความรอบคอบเป็นธรรมกับทุกฝ่าย จึงให้มีการตรวจสอบเพื่อความถูกต้อง ก่อนที่จะประกาศรายชื่อ โดยวันนี้ก็ยังยืนยันเช่นนี้อยู่ ส่วนรายละเอียดว่าจะทยอยประกาศรายชื่ออย่างไร เลขาธิการ ป.ป.ง. จะเป็นผู้รับผิดชอบ

ผู้สื่อข่าวถามว่า เกรงเรื่องการถูกฟ้องร้องตามมาหรือไม่ อธิบดีดีเอสไอกล่าวว่า เราทำงานตามปกติไม่ได้แตกต่างจากปี 2553 ในสมัย ศอฉ. ที่ใช้กฎหมายฉุกเฉิน เพียงแต่การทำงานต้องมีความรอบคอบ แม้บุคคลที่ประกาศรายชื่อจะยังไม่อยู่ในข่ายกระทำความผิด แต่ก็อยู่ในกลุ่มของการต้องสงสัย อาจจะมีผลกระทบเพราะต้องถูกระงับการทำธุรกรรม ต้องมาขออนุญาตเป็นการเฉพาะครั้ง ถูกตรวจสอบ ซึ่งต้องให้ความเป็นธรรมกับเขา และต้องดูให้รอบคอบมากที่สุด

ผู้สื่อข่าวถามว่า จากการประเมินคาดว่าจะสามารถเปิดเผยรายชื่อกลุ่มทุนซึ่งให้การสนับสนุนการชุมนุมของ กปปส. ได้เมื่อใด และจะเปิดเผยเป็นกลุ่ม หรือเปิดเผยได้ทั้งหมด เลขาธิการ ป.ป.ง. กล่าวว่า ในขั้นตอนของการรวบรวมพยานหลักฐานในขณะนี้หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องได้ส่งเรื่องเข้ามา ซึ่งคณะทำงานได้ข้อมูลพยานหลักฐานชัดเจน โดยในส่วนของ 58 รายชื่อก็เป็นรายชื่อที่คงจะทราบกันดีอยู่แล้ว สำหรับขั้นตอนต่าง ๆ หลังจากรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานได้ครบถ้วนแล้ว จะเสนอ ศรส. ออกคำสั่ง ศรส. ต่อไป โดยในคำสั่งจะปรากฏรายชื่อ และระบุว่าห้ามทำอะไรหรือให้ทำอะไร ซึ่งรายชื่อที่ประกาศจะเป็นรายชื่อที่แนบท้ายคำสั่ง ศรส. ชัดเจน ถ้าเห็นรายชื่อที่อื่นก็ไม่อยากให้พูดกันไปเอง อยากให้เป็นเรื่องที่ออกมาโดยคำสั่ง ศรส. ซึ่งจะมีความชัดเจนถูกต้องตรงกับตัวคน ขณะนี้ที่รวบรวมได้มี 58 รายชื่อ กับอีก 3 รายชื่อ รวมเป็น 61 รายชื่อที่มีความชัดเจน มีพยานหลักฐานข้อมูลชัดเจน คาดว่า ศรส. น่าจะออกประกาศคำสั่งได้ในวันพรุ่งนี้ (13 ก.พ.57) หรือวันจันทร์ที่ 17 ก.พ.57 จึงขอให้สื่อมวลชนติดตามจากคำสั่ง ศรส. ไม่อยากให้นำข่าวลือไปพูดต่อเพราะจะเกิดผลกระทบกับผู้ที่ไม่ได้เกี่ยวข้อง โดยรายชื่อจะออกมาจากที่ ศรส. ไม่ออกจากที่อื่น และจะมีการเผยแพร่ในราชกิจจานุเบกษาด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่า 22 รายชื่อที่มีการเผยแพร่ออกมานั้นออกมาได้อย่างไรและเป็นรายชื่อที่ตรงกับที่ ศรส. กำลังตรวจสอบอยู่หรือไม่ เลขาธิการ ป.ป.ง. กล่าวไม่ทราบว่าหลุดออกมาจากที่ไหน แต่ยืนยันว่าไม่ได้ออกมาจากเราแน่นอน ตนไม่ทราบในรายชื่อนั้น ทั้งนี้ ขอทำความเข้าใจถึงขั้นตอนการทำงานว่าต้องมีความชัดเจน มีข้อมูลพยานหลักฐานจึงจะดำเนินการ ไม่ได้ทำตามรายชื่อที่มีปรากฏเป็นข่าวผ่านสื่อต่าง ๆ จึงอยากให้ประชาชนรับทราบว่าการทำงานของ ศรส. เป็นไปโดยหลักการที่ถูกต้อง มีความยุติธรรม มีความโปร่งใสตรวจสอบได้ ขอให้สบายใจในส่วนนี้

“ ในฐานะกรรมการ ศรส. ที่ได้รับมอบหมายให้แถลงข่าว ยังยืนยันว่าเราไม่ได้ประกาศรายชื่ออย่างเป็นทางการทั้งสิ้น ยังอยู่ในขั้นตอนที่ท่านสีหนาทพูด แต่ในฐานะอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษที่รวบรวมรายชื่อส่งให้คณะกรรมการ 5 หน่วยงานตรวจสอบ ผมยอมรับว่ารายชื่อที่ปรากฏตามสื่อหนังสือพิมพ์มีบางรายชื่อตรงกับข้อมูลที่ดีเอสไอส่งให้” อธิบดีดีเอสไอกล่าว


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น