สรุปประเด็นแถลงข่าว ของทีมโฆษก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
(ประจำวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 11.00น.)
ผู้แถลง คือ พล.ต.ต.อนุชา รมยะนันทน์ รองโฆษก ตร.
______________________________________________
พลตำรวจตรี อนุชา รมยะนันทน์ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวถึงรายละเอียดความคืบหน้าสถานการณ์การชุมนุมในเขตกรุงเทพมหานคร ว่า ขณะนี้ยังคงมีการชุมนุมอยู่ 5 เวที่ ลดลงจากเดิม 2 เวที มีเวทีคู่ขนานตามจังหวัดต่างๆ 15 จังหวัด ประกอบด้วย ภาคเหนือ 4 จังหวัด ภาคตะวันออกฉียงเหนือ 4 จังหวัด และภาคใต้ 7 จังหวัด โดยในวันนี้กลุ่มชาวนาภาคกลางได้นัดชุมนุมปิดถนนสายตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี และขณะนี้กลุ่มชาวนาที่จังหวัดกาญจนบุรี ปิดถนนที่บริเวณสามแยกท่าล้อ อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี ทั้งขาขึ้นและขาล่อง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเปิดเส้นทางเลี่ยงให้แล้ว โดยผู้แทนจากฝ่ายปกครองและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรร์ก็เข้าร่วมเจรจาแล้ว ส่วนในเขตกรุงเทพมหานคร ยังคงมีการปิดสะพานพระราม8 และกระทรวงพลังงาน โดยพลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้มีการเตรียมแผนรองรับเพื่อขอพื้นที่คืนโดยเน้นการเจรจา ซึ่งผลการเจรจาได้มีการขอพื้นที่คืนได้แล้วบริเวณสะพานพระราม8 ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมยินดีที่จะคืนพื้นที่ให้แก่ประชาชนเพื่อใช้สัญจรไปมาตามปกติ
นอกจากนี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการเพิ่มเติมให้รักษาพื้นที่ ด้วยการตั้งด่านตรวจอย่างเข้มแข็ง มีการแสดงกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ประชาชนได้เห็นเพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจแก่ประชาชน โดยเฉพาะการอำนวยความสะดวกการจราจรอย่างต่อเนื่อง มีการประชาสัมพันธ์เส้นทางที่มีการปิด และเส้นทางเลี่ยง เป็นระยะๆ
ส่วนเรื่องการดำเนินคดีในเรื่องต่างๆ กรณีที่มีการตั้งด่านและจับกุมอาวุธได้ ให้ดำเนินการตรวจพิสูจน์เปรียบเทียบและขยายผล เพื่อหาความเชื่อมโยงถึงคดีอื่นๆที่อาจจะเกี่ยวข้องได้ สำหรับความผิดเกี่ยวกับกรณีการเลือกตั้งนั้น ให้มีการเร่งรัดการสืบสวนสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
ในส่วนการเร่งรัดการสืบสวนคลี่คลายคดีสำคัญนั้น วันนี้ได้มีการประชุมเร่งรัดติดตามคดี โดยมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นประธานการประชุม นอกจากนี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังได้กำชับให้ พลตำรวจโท คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และผู้บัญชาการเหตุการณ์ในพื้นที่ ให้บังคับใช้กฎหมายในจุดที่สามารถกระทำได้ โดยเน้นการเก็บรวบรวมข้อมูลบุคคลเป้าหมาย เพื่อเป็นประโยชน์ในการพิสูจน์ทราบกรณีมีการกระทำความผิดในวันข้างหน้า รวมถึงการจัดทำแผนเผชิญเหตุและให้มีการตรวจสอบความพร้อมของแผนเชิญเหตุนั้นด้วย
นอกจากนี้ กองบัญชาการตำรวจนครบาลและผู้บัญชาการเหตุการณ์พื้นที่ จะต้องมีการประสานแผนการปฏิบัติกับเจ้าหน้าที่ทหาร เพื่อประโยชน์ในการรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกแก่พี่น้องประชาชนร่วมกัน โดยในวันนี้ผู้แทนของฝ่ายทหารได้แถลงให้ที่ประชุมทราบถึงแผนการปรับกำลัง ในการรักษาความปลอดภัยแก่สถานที่สำคัญ ซึ่งทหารยังคงวางกำลังรักษาความปลอดภัยแก่สถานที่สำคัญตามที่ ศรส. ได้มอบหมายจำนวน 24 แห่ง ส่วนการตั้งจุดตรวจร่วมระหว่างทหารกับตำรวจ ยังคงเหลือไว้ 18 จุด จุดละ 12 นาย ร่วมกับตำรวจ ทั้งนี้สายตรวจสารวัตรทหาร ทั้งจากกองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ ยังคงปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่เวลา 18.00 – 06.00 น. ของอีกวัน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น