วันจันทร์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2557

สรุปผลการประชุม ศอ.รส. เมื่อวันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๕๗




ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย หรือ ศอ.รส. มีผลการประชุมสมควรแจ้งให้พี่น้องประชาชนทราบ ดังนี้

​เรื่องที่ ๑  ศอ.รส. พิจารณาเห็นว่า ปัจจุบันยังคงมีกลุ่ม กปปส. ได้นำมวลชนไปปิดล้อมบุกรุกสถานที่ราชการหรือหน่วยงานของรัฐต่าง ๆ โดยมีพฤติกรรมคุกคามให้ข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ออกจากสถานที่ทำงาน  ดังนั้น เพื่อให้การแก้ไขปัญหาความไม่สงบเรียบร้อยเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ในช่วงบ่ายวันนี้ ผู้อำนวยการ ศอ.รส. จึงได้เชิญปลัดทุกกระทรวงมาประชุมหารือเพื่อกำหนดแนวทางร่วมกันในการดำเนินคดีกับแกนนำ กปปส. ที่บุกรุกหรือทำให้เสียหายกับสถานที่ราชการ โดยเฉพาะพฤติกรรมการคุกคามให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ออกจากสถานที่ทำงาน ซึ่งกำหนดว่าจะมีการดำเนินคดีใน ๔ ฐานความผิด ได้แก่ ความผิดฐานบุกรุก ความผิดต่อเสรีภาพฐานข่มขืนใจผู้อื่น  ความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ และความผิดตามประกาศ ศอ.รส. ฉบับที่ ๑/๒๕๕๗ เรื่องห้ามบุคคลเข้าหรือต้องออกจากบริเวณพื้นที่ อาคาร หรือสถานที่ที่กำหนด และห้ามใช้เส้นทางคมนาคมหรือการใช้ยานพาหนะ ลงวันที่ ๑๙ มีนาคม ๒๕๕๗ ซึ่งออกตามพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรฯ ทั้งนี้แล้วแต่ข้อเท็จจริงเป็นกรณีไป

​อนึ่ง ศอ.รส. ขอเรียนย้ำว่า ศอ.รส. มีนโยบายในการดำเนินคดีกับแกนนำ กปปส. หรือกลุ่มอื่นใดที่นำมวลชนไปปิดล้อมสถานที่ราชการหรือหน่วยงานของรัฐอย่างจริงจังในทุกกรณี เนื่องจากข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐล้วนปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศชาติและประชาชนทุกคน การปิดล้อมสถานที่ราชการเช่นนี้จึงก่อให้เกิดผลเสียทั้งต่อประชาชนและชาติบ้านเมือง สมควรที่จะต้องมีการดำเนินคดีกับผู้ล่วงละเมิดกฎหมายดังกล่าวทุกคนและทุกกรณี

​เรื่องที่ ๒ ศอ.รส. ได้รับรายงานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ณ วันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๕๗ ว่า คดีที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดตามกฎหมายเลือกตั้งอันเกิดจากการกระทำของแกนนำ กปปส. กับพวก เมื่อครั้งการเลือกตั้งที่ผ่านมา มีดังนี้

​๑) คดี กปปส. ขัดขวางการเลือกตั้งทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น ๑๙๔ คดี แยกเป็นคดีที่เกิดในกรุงเทพมหานคร จำนวน ๕๑ คดี และคดีที่เกิดในต่างจังหวัด จำนวน ๑๔๓ คดี
​๒) คดีเจ้าหน้าที่ กกต. จงใจละทิ้งไม่จัดการเลือกตั้ง รวมทั้งสิ้น ๑๗๘ คดี แยกเป็นคดีที่เกิดในกรุงเทพมหานคร จำนวน ๖๖ คดี และคดีที่เกิดในต่างจังหวัด จำนวน ๑๑๒ คดี
​รวมคดีที่เกี่ยวกับการกระทำผิดต่อกฎหมายเลือกตั้งทั้งสิ้น ๓๗๒ คดี โดยศาลได้ออกหมายจับให้ รวมทั้งสิ้น ๒๐๑ คน ได้ตัวมาสอบสวนแล้ว ๒๐๕ คน ทั้งนี้เฉพาะเจ้าหน้าที่ กกต. จงใจละทิ้งไม่จัดการเลือกตั้งมีจำนวนถึง ๑,๗๑๓ คน

​ศอ.รส. จะติดตามและกำชับการดำเนินคดีดังกล่าวอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปโดยเคร่งครัด และป้องปรามไม่ให้เกิดการกระทำผิดซ้ำอีกในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงในอนาคตนี้  โดยในวันนี้ ศอ.รส. ได้รับรายงานจากคณะพนักงานสอบสวนในคดีพิเศษ ซึ่งรับผิดชอบดำเนินคดีกับนายสุเทพ  เทือกสุบรรณ และแกนนำ กปปส. รวมทั้งสิ้น ๕๘ คน ว่า จะได้นำเอาการกระทำความผิดฐานขัดขวางการเลือกตั้งเข้ามารวมกับความผิดฐานร่วมกันเป็นกบฏ ฐานร่วมกันยุยงให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมาย และฐานร่วมกันมั่วสุมให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ตามที่ได้มีมติกำหนดไว้  เพราะถือว่าความผิดฐานขัดขวางการเลือกตั้งเป็นคดีที่เกี่ยวเนื่องเกี่ยวพันกับคดีพิเศษดังกล่าว

​อนึ่ง ศอ.รส.ขอย้ำเตือนว่า โทษที่เกี่ยวข้องกับการขัดขวางการเลือกตั้ง เป็นความผิดอุกฉกรรจ์ที่มีทั้งโทษจำคุกและปรับ รวมถึงการตัดสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา ๕ ปี  ตามกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง ทั้งนี้ ศอ.รส.จะติดตามและกำชับการดำเนินคดีอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปโดยเคร่งครัด และป้องปรามมิให้เกิดการกระทำผิดซ้ำอีกในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงในอนาคตนี้

​จึงประกาศมาเพื่อทราบทั่วกัน
​______________________

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น