วันจันทร์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557
ผอ.ศรส.ยืนยันแนวทางเลือกตั้งให้แล้วเสร็จ มีรัฐบาลใหม่ก่อนจัดการปฏิรูป
ผอ.ศรส. ยืนยันแนวทางเลือกตั้งให้แล้วเสร็จ มีรัฐบาลใหม่ จัดการปฏิรูป แล้วยุบสภาฯ เลือกตั้งอีกครั้ง พร้อมระบุไม่อยากเห็นการเผชิญหน้า หวั่นการตัดสินขององค์กรอิสระ หากมองแล้วไม่เป็นธรรมอาจเกิดปัญหา
วันนี้ (10 มี.ค.57) เวลา 10.40 น. ที่ศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการ ศรส. ให้สัมภาษณ์ถึงการตั้งด่านความมั่นคงใกล้กับเวทีชุมนุมของ กปปส. ว่า เป็นนโยบายของ ศรส. ตั้งแต่ต้น โดยล่าสุดได้รับรายงานการจับผู้ต้องหามีอาวุธปืนเอ็ม 16 จำนวน 1 กระบอก ปืนขนาด 11 มม. 1 กระบอก และกระสุน 2,000 กว่านัด ซึ่งถือว่าน่ากลัว และผู้ต้องหารับว่าเป็นเจ้าของของกลาง แต่ไม่บอกว่าจะนำไปที่ไหน ตนเคยบอกมาตลอดว่าส่วนตัวแล้วมีความเห็นที่ค่อนข้างแตกต่างจากฝ่ายความมั่นคงในบางเรื่อง ตนบอกว่าเรื่องนี้เพิ่งเริ่มต้น ถึงแม้ กปปส. จะรวมการชุมนุมไปอยู่ในสวนลุมพินี และบอกว่าจะไม่เคลื่อนไหว แต่จะเชื่อถือได้อย่างไร ทั้งนี้ระหว่างที่ตนเดินทางไปสิงคโปร์ได้รับรายงานข่าวว่า มีคาราวานจากจังหวัดกระบี่ พังงา ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี และชุมพร เข้ามากรุงเทพฯ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ยืนยันว่าต้องล้มรัฐบาลให้ได้ ไล่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไล่ตระกูลชินวัตร ให้ปฏิรูปการเมือง แล้วจึงไปสู่การเลือกตั้ง ส่วนพรรคเพื่อไทยและตนก็ยึดมั่นว่าการเลือกตั้งเมื่อเริ่มแล้วก็ต้องจัดการเลือกตั้งให้เสร็จ มีรัฐบาลใหม่ จัดการปฏิรูป แล้วยุบสภาฯ ไปสู่การเลือกตั้งอีกครั้งหนึ่ง แต่รัฐบาลอ่านออกว่านายสุเทพไม่ได้มาคนเดียวแต่มีพวกเยอะ ตนไม่อยากเห็นการเผชิญหน้า ไม่อยากเห็นการประจัญบาน จึงได้บอกไปว่าอยากพบกับนายสุเทพ แต่เมื่อนายสุเทพไม่พบ แสดงว่าอยากแตกหัก เมื่ออีกฝ่ายหนึ่งไม่ยอม ก็จะกลายเป็นว่าสองฝ่ายต่างคนต่างไม่ยอม เรื่องจึงไม่สงบ และนายสุเทพประกาศชัดว่ารอ ป.ป.ช. รอศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนเป็นห่วง
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองอย่างไรต่อกรณีที่นายสุเทพเปิดเวทีปฏิรูปประเทศไทยเพื่อเริ่มต้นการปฏิรูปประเทศเต็มรูปแบบ ผอ.ศรส. กล่าวว่า จะปฏิรูปได้อย่างไรเพราะยังไม่มีสภาผู้แทนราษฎร ต้องมีรัฐบาล มีสภาฯ แล้วปฏิรูป เหมือนที่เคยทำ แก้มาตรา 211 ตนดูไม่ออก จึงเชื่อว่านายสุเทพไม่ได้มาคนเดียว แต่มาเป็นหมู่คณะ สงครามเพิ่งเริ่มต้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าไม่มี พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วจะดูแลความสงบอย่างไร ผอ.ศรส. กล่าวว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉินวันนี้มีก็เหมือนไม่มี มีแต่ชื่อว่ามี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะศาลแพ่งออกข้อห้าม 9 ข้อ รัฐบาลก็อยู่ในภาวะลำบาก แต่หากไม่มีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาล ตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ส่วนงานในหน้าที่ ผอ.ศรส. เป็นงานเฉพาะ งานพิเศษ ถ้างานทั่วไปตามกฎหมายต้องเป็นหน้าที่ของกระทรวงยุติธรรม ส่วนจะต้องกลับไปใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงหรือไม่ นายกรัฐมนตรีจะพิจารณา หากเป็น พ.ร.บ.ความมั่นคงก็จะกลับไปเป็นหน้าที่ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมกับตำรวจเหมือนเดิม
ผอ.ศรส. กล่าวยืนยันว่าเหตุการณ์จะไม่มีสงบ ต้องแตกหักกันไปข้างหนึ่ง น่ากลัว แต่จะไม่ซ้ำรอยกับปี 53 ที่รัฐบาลมีอำนาจเต็ม แต่ปีนี้รัฐบาลไม่มีอำนาจ ออก พ.ร.ก.ฉุกเฉินมาแต่ใช้ไม่ได้ พรรคเพื่อไทยเขายอมไม่ได้ เพราะเขามาจากการเลือกตั้งตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ อยู่ ๆ จะมีคนมาล้มล้างก็ไม่ชอบธรรม แต่ตนกลัวการตัดสินขององค์กรอิสระ หากตัดสินออกมามองแล้วไม่เป็นธรรมก็จะเกิดปัญหา
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้า ป.ป.ช. ตัดสินว่านายกรัฐมนตรีมีความผิด คิดว่าจะเกิดปฏิกิริยาอย่างไร ผอ.ศรส. กล่าวว่าต้องดูเนื้อหาที่เขียนว่าคนรับได้หรือไม่ ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า มองว่าเป็นการนับถอยหลังที่จะเข้าสู่สงครามกลางเมืองหรือไม่ ผอ.ศรส. กล่าวว่า อย่าไปใช้คำว่าสงครามเลย แต่จะทะเลาะกันแน่นอน ไม่จบ คนต่างพวกจะทะเลาะกัน ตนอยู่การเมืองมานาน เห็นความรุนแรงมามาก ไม่อยากเห็นอีก
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น